20.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ N สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK ) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอํานวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
*** เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กําหนด ***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินเนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบินเป็นผู้กําหนด
23.05 น. ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK) เที่ยวบินที่ TK69 (บริการอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 10 ชั่วโมง 15 นาที)
05.15 น.เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ มิวนิค ประเทศ เยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง)
07.55 น. ออกเดินทางสู่มิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยเที่ยวบินที่ TK1629 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบิน ประมาณ 2.40 ชั่วโมง)
08.40 น.เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี (เวลาประเทศเยอรมนีช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลา ให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้วนําท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองมิวนิค (Munich) เมืองหลวงที่มีเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของ ประเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ําอีซาร์เหนือเทือกเขาแอลป์ บนที่ราบสูงบาวาเรีย เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดใน ประเทศเยอรมนี เต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนา และยังเมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ที่สุดในเยอรมัน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที)
นําท่านชม มาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz) ในเขตเมืองเก่าที่ เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการทําความรู้จักกับมิวนิค ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สําหรับงานพิธีต่างๆ ที่สําคัญของเมือง ที่ บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลัสซ์นี้เราจะได้เห็น ศาลาว่าการใหม่ (New Town Hall) ที่ได้ใช้ทําการแทนศาลาว่าการเก่า ตั้งแต่ปี 1874 เห็นได้ง่ายด้วยหอคอยแหลมสูงและการออกแบบและตกแต่งอย่างประณีตไม่แพ้ปราสาทหรือ พระราชวัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และนาฬิกา Glockenspiel หอนาฬิกาที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบํา บริเวณใกล้กันนั้นเป็น ศาลาว่าการเก่า (Old Town Hall) อาคารสีขาวสะอาดหลังนี้เป็นศาลาว่าการของเมืองมิวนิค มาตั้งแต่ปี 1310 แม้จะผ่านมากว่า 700 ปี ใกล้กันนั้นจะเห็น โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche-Church of Our Lady) เป็นโบสถ์ทรงหัวหอมคู่ที่สร้างด้วยอิฐแดงสูง 99 เมตร ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองมิวนิคเช่นกัน
จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่น หรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นําท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) ประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) หัวใจแห่ง เทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มอินน์ (Inn Valley) ทางตะวันตกของประเทศ เป็นเมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขา หิมะขนาดใหญ่ยักษ์ประกบอยู่ทางทิศเหนือ และทิศใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมสวยงามที่ สามารถเที่ยวชมได้ทั้งเมือง อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) บริเวณแลนด์มาร์ค ของเมือง นั่นคือ "หลังคาทองคํา” สัญลักษณ์สําคัญของเมืองตั้งอยู่ในเขต Old Town ไฮไลท์สําคัญอยู่ที่ส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงตกแต่ง ด้วยทองคําแท้ จํานวน 2,738 แผ่น ในการมุงหลังคากว้าง 16 เมตร เพื่อ พยายามลบข่าวลือว่าสถานภาพทางการเงินที่ไม่ดีในช่วงนั้น ตกแต่งสวยงาม แปลกตา และมีมูลค่าสูงจนไม่สามารถประเมินค่าได้ อาคารสไตล์โกธิคผสม บาโรกนี้ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครั้งที่ 2 ของจักรพรรดิแมกมิเลียนที่ 1 ในอดีตจะทรงประทับที่ระเบียง เพื่อ ทอดพระเนตรกิจกรรม และเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านล่าง ใกล้ๆกันท่านจะเห็น City Tower หอคอยเก่าแก่อายุมากกว่า 450 ปี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Innsbruck มีความสูง 31 เมตร เป็นอาคารที่มีความสูงที่สุดในเมือง โดดเด่นจนสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เดินถัดมาอีกไม่ไกลท่านจะได้ สัมผัสความงดงามของ แม่น้ําอินส์ (Inn River) แม่น้ําสายหลักที่ไหลผ่านอาคารตึกเก่าหลากสี แวะถ่ายรูป Candy House บริเวณสะพานข้ามแม่น้ําอินน์ กลุ่มอาคารเก่าสีพาสเทลที่ตั้งอยู่เรียงกันริมแม่น้ํา มีวิวภูเขาแอลป์เป็นฉาก ตระการตา เป็นจุดแลนด์มาร์คห้ามพลาดเช็คอินอีกแห่งหนึ่งของอินส์บรุค
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.45 ชั่วโมง) ที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาสวยงามราวกับภาพวาด ว่ากันว่า เป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียได้ให้ฉายาเมืองนี้ว่า “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อปี 1997
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน (เมนูปลาเทราซ์ ย่าง)
นําท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองสวย แสนโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งของทวีปยุโรป ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1996 อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของคีต กวีผู้ยิ่งใหญ่ของโลกนามว่า วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) และเป็นสถานที่ในการถ่ายทํา ภาพยนตร์อมตะ เรื่อง The Sound of Music ซึ่งทําให้เมืองนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเมืองนี้มีอดีตที่เติบโตมาจาก การผลิตเกลือและการค้าเกลือซึ่งในยุคนั้นมีค่าประดุจทองคําขาว เกลือจึงเป็นที่มาของทั้งชื่อแคว้นและเมืองแห่งนี้
Mozarts Geburtshaus
นําท่านผ่านชม สวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนสาธารณะสไตล์บาโรก ที่สวยที่สวยที่สุดในเมือง เดิมเป็นสวนของ พระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่โมสาร์ทเคยมาจัดการแสดง แถมยังเป็นสถานที่ถ่ายทําของ The Sound of Music ด้วย จึงไม่แปลกใจเลย หากที่พระราชวังแห่งนี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากนั้นนําท่าน เดินข้ามสะพานมายัง บ้านเกิดโมสาร์ท (Mozart Geburtshaus) (ชม บริเวณภายนอก) เป็นอาคารสีเหลืองหมายเลข 9 อาคารแห่งนี้เป็นสถานที่เกิด ของโมสาร์ท และเติบโตมาตลอด 20 ปี ก่อนจะย้ายไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งข้างๆ กัน ซึ่งปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเครื่องดนตรีที่โมสาร์ท เคยใช้ เช่น ไวโอลิน และ เปียโน รวมถึงชีวประวัติและจดหมายที่โมสาร์ทเคยเขียนอีกด้วย (ไม่รวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์) อิสระให้ท่านช้อปปิ้งที่ถนน Getreidegasse (เกรไทเกร้) ที่รวมร้านค้าแบรนด์ เนมให้ท่านเลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายพื้นบ้าน, รวมถึงร้านอาหารนั่งดื่มชิล ๆ จุดเด่นของถนน สายนี้คือป้ายชื่อร้านที่อยู่ด้านหน้าอาคารทําให้เหล่านักท่องเที่ยวได้แหงนมอง
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นําท่านเดินทางสู่เมืองลินซ์ (Linz) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ริมแม่น้ําดานูบ เมืองนี้พัฒนามาจากค่ายสมัยโรมัน เป็นศูนย์กลางการค้าที่สําคัญในคริสต์ศตวรรษ ที่ 13 เมืองเก่าที่มีบ้านสไตล์บาโรกจํานวนมากได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีอาคารสถานที่ท่องเที่ยวและ มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ลินทร์เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป และใน ค.ศ. 2009 ลินทร์เป็นสมาชิกของ UNESCO Creative Cities Network (UCCN) ในฐานะเมืองแห่งศิลปะ อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นําท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นครโบราณขนาดเล็กดั่งเทพนิยาย
โดยมีแม่น้ําวัลตาวา (Vltava) ไหลผ่านและล้อมรอบเมืองไปตามเนินเขา คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว S จนทําให้ภูมิทัศน์ของตัวเมือง เหมือนกับหยดน้ํา นอกจากนี้บ้านและอาคารทุกหลังล้วนใช้หลังคาสีส้มแดง ทําให้ เมืองแห่งนี้ เมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นภาพที่สวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังจากงานสถาปัตยกรรม และศิลปะสุดคลาสสิคตั้งแต่ยุคกลางในเขตเมืองเก่า (Old Town) และยังคงรักษาศิลปวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่าง สมบูรณ์ จนได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1992 และ ได้รับการขนานนามว่า ไข่มุก เม็ดงามแห่งโบฮีเมีย
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ บูเดอโจวิซ (Ceske Budejovice) เมืองท่องเที่ยวเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดในแคว้น โบฮีเมียใต้ (South Bohemia) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองที่มีความสําคัญทางด้านประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น จากการผสมผสานกันระหว่างศิลปะโกธิค เรอเนสซองซ์ และบารอกได้อย่างงดงาม ทั้งยัง เป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจที่เจริญ รุ่งเรือง เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และยังเป็นเมืองต้นกําเนิด ของเบียร์ชื่อดังในยุโรป อย่าง Budweiser Budvar เดินเที่ยว ณ จัตุรัสบูเดโจวิช หรือจัตุรัส นาเมสตี เปรมีสลา โอ ตาการ่า (Namesti Premysla Otakara II) จัตุรัสขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ชมความงามของ อาคารบ้านเรือนสีพาสเทล ใจกลางของจัตุรัสประดับด้วยน้ําพุแซมซั่น (Samson's Fountain) ที่ทําจากหิน และใน บริเวณรอบๆ ยังเต็มไปด้วยร้านค้าสําหรับเดินเลือกซื้อของที่ระลึก ผ่านชม BlackTower หอคอยสีดํา สร้างขึ้นใน ศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ใกล้มุมตะวันออกเฉียงเหนือของจัตุรัส ปรเมสเซอร์โอโตก้าที่ 2 ติดกับโบสถ์หลักของเซนต์นิโคลัส หอคอยสูง 72.25 เมตร ได้รับการตั้งชื่อเพราะสีเข้ม หอคอยสี่เหลี่ยมมีแผ่นนาฬิกาสีทองซึ่งดูสะดุดตามากในเมือง นาฬิกาจะเคาะทุกสิบห้านาที อีกทั้งเมื่อก่อนหอคอยโบราณแห่งนี้ยังใช้เป็นหอสังเกตการณ์ไฟในเมืองอีกด้วย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นําท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ศูนย์กลางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เมืองนี้ยังคงมนต์เสน่ห์แห่งเมืองหลวงของจักรวรรดิ ออสเตรียในอดีต โดยยังคงร่องรอยของศิลปะ ดนตรีคลาสสิก สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ แหล่งอุดมวัฒนธรรม จนขึ้นชื่อว่าโรแมนติก ที่สุดอีกเมืองของโลก
นําท่านเดินทางสู่ พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) (บริเวณด้านนอก) เป็นพระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1275 แต่เดิมคือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ปัจจุบันเป็น พิพิธภัณฑ์ชั้นยอดในบริเวณที่พํานักอันเก่าแก่ของราชวงศ์ที่ทรงอํานาจแห่งออสเตรีย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
จากนั้นอิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งแบบเต็มอิ่ม ณ คาร์ทเนอร์สตรีท (Karntner Strasse) ถนนสายนี้ปัจจุบันเปลี่ยน สภาพเป็นถนนคนเดิน ปูด้วยแนวหิน และขนาบข้างด้วยอาคารร้านค้าทั้งเก่าและใหม่สลับกันไป บรรยากาศของผู้คน ร้านรวงริมทาง และอุณหภูมิเย็นสบาย กระตุ้นต่อมช้อปปิ้งของเราให้เดินเข้าออกร้านสวยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสัก นิด ทั้งร้านขนม ร้านขายงานประดิษฐ์ และร้านขายเครื่องแก้วอื่นๆอีกมากมาย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
เดินทางสู่ กรุงบราติสลาวา (Bratislava) เมืองหลวงของสาธารณรัฐสโลวาเกีย และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เมืองนี้ตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ําดานูบ ตรงบริเวณพรมแดนของสโลวาเกียกับ ออสเตรียและฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็กด้วย ผ่านชม ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา Little Carpathians ริมฝั่งแม่น้ําดานูบ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9-18 ผสมผสาน สถาปัตยกรรมแบบโกธิค เรอเนสซองส์ และบารอกได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรางดงาม ผ่านชม มหาวิหารเซนต์มาร์ติน (St. Martin's Cathedral) โบสถ์โกธิค ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง สร้างขึ้น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เป็นโบสถ์ที่ใช้สําหรับพิธีบรมราชาภิเษก บนยอดหอคอยของโบสถ์ที่มีความสูง 85 เมตร ภายในมี รูปจําลองมงกุฎที่มีน้ําหนักถึง 150 กิโลกรัม ติดตั้งอยู่ เพื่อเป็นสิ่งแสดงถึงอดีตที่เคยรุ่งโรจน์ จากนั้นเข้าสู่ ย่านเมืองเก่าบราติสลาวา (Old Town) ย่านแห่งประวัติศาสตร์ ประกอบไปด้วยอาคารสไตล์เรอเนสซองส์สวยๆ และ สัญลักษณ์ที่ทําให้เมืองนี้เป็นที่รู้จัก ก็คือ รูปปั้นคูมิล Cumit Man at work (Peeping Tom) ผู้ชายยิ้มหวาน ที่โผล่ ศีรษะออกมาจากท่อระบายน้ําทักทายนักท่องเที่ยว อิสระทุกท่านชมเมืองตามอัธยาศัย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของประเทศฮังการี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ําดานูบที่ไหลผ่านใจกลางเมือง ทําให้แบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งบูดา (Buda) และฝั่ง เปสต์ (Pest) กรุงบูดาเปสต์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปา เนื่องด้วยมีบ่อน้ําร้อนจํานวนมากกระจายอยู่ทั่วเมือง
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นําท่านชม จัตุรัสวีรบุรุษ (Hero Square) เป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบูดาเปสต์ ใจกลางจัตุรัสมีอนุสรณ์สถาน พันปี หรือ Millennium Memorial ซึ่งมีความสูงถึง 36 เมตร และถูกขนาบด้วยรูปปั้นของอดีตกษัตริย์และบุคคล สําคัญในประวัติศาสตร์ของฮังการี 14 คน ปัจจุบันจัตุรัสวีรบุรุษถือเป็น พื้นที่มรดกโลกร่วมกับย่านถนนอันดราสซี
Andrássy Avenue)
นําท่านแวะถ่ายรูปกับ สะพานเชน (Chain Bridge) เป็นหนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดในยุโรปที่สร้างข้ามแม่น้ําดานูบ (Danube River) ถือว่าเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของกรุงบูดาเปสต์ (Budapest) ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1839 โดย วิศวกรชาวอังกฤษชื่อ William Tierney Clark เป็นสะพานโซ่ขนาดใหญ่แห่งแรกที่เชื่อมระหว่างฝั่งบูดาและฝั่งเปสต์ ซึ่งเหล็กและวัสดุทั้งหมดได้นํามาจากประเทศอังกฤษทั้งสิ้น ที่คอสะพานเชนมีรูปปั้นหินแกะสลักรูปสิงห์โตนอนหมอบอยู่ทั้งสองข้าง
แวะถ่ายรูป ปราสาทบูดา พระราชวังแห่งอดีตของเมืองบูดา (Buda Castle) สถานที่แห่งประวัติศาสตร์ซึ่งเก็บทั้ง ความงดงามรุ่งโรจน์รวมถึงร่องรอยของอดีตแห่งเมืองบูดาเปสต์เอาไว้ รูปร่างสถาปัตยกรรมเป็นการผสมผสานระหว่าง ศิลปะในอดีตและสมัยใหม่ ทั้งยังได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก ปัจจุบันได้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูดาเปสต์, หอศิลป์แห่งชาติ, หอสมุดเซเยนซีแห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ไวน์ใต้ดิน ซึ่งล้วนเป็น สถานที่สนใจที่น่าไปชมทั้งสิ้น
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักใน ด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนําจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสําหรับนักท่องเที่ยว และชาวเมืองบูดาเปสต์เองด้วย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนําท่านเดินทางสู่ สนามบินบูดาเปสต์
20.20 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK) เที่ยวบินที่ TK1038 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที)
00.30 น. เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 1.25 ชั่วโมง)
01.55 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK068 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง 50 นาที)
15.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทําการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างลูกค้าและ บริษัทฯ เมื่อท่านตกลงชําระเงินมัดจําหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯแล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไข ข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
1. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อน, ยกเลิกการเดินทาง หรือปรับราคาค่าบริการขึ้น ในกรณีที่มีผู้เดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน เมื่อท่านตกลงชําระเงินมัดจําหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชําระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชําระโดยตรงกับทางบริษัทฯ
2.ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆที่บริษัทฯได้ระบุไว้ทั้งหมด
3. เนื่องจากตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วกรุ๊ปราคาพิเศษ ในกรณีที่ท่านไม่สามารถเดินทางพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตั๋วเครื่องบิน ไม่สามารถ เลื่อนวันเดินทาง, เปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน หรือคืนเงินได้
4. หากสายการบินมีการปรับขึ้นของค่าภาษีสนามบิน หรือภาษีน้ํามัน ทางบริษัทจะเรียกเก็บเพิ่มตามจริง
5. หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือการใช้งานมากกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทางกลับ) และบริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์
เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น
6. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดทัวร์บางประการเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย อาทิเช่น เที่ยวบิน รายการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
7. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, สายการบินยกเลิกเที่ยวบิน, การประท้วง, การ นัดหยุดงาน, การก่อจลาจล, โรคระบาด, ภัยธรรมชาติ, อุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัท
8. บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องมาจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
9. บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคน เข้าเมือง-ออกเมือง ไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการ กระทําที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนีเข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
10. บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ, ไม่ทานอาหารบางมื้อ เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทางบริษัทฯได้มีการชําระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว
11. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สํารองโรงแรมที่พักในต่างประเทศ เรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม
12. การจัดการเรื่องห้องพัก เป็นสิทธิ์ของโรงแรมในการจัดห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก โดยมีห้องพักสําหรับผู้สูบบุหรี่/ปลอดบุหรี่ โดย อาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม ไม่สามารถยืนยันได้
13. กรณีมีผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ นั่งรถเข็น (WHEELCHAIR), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจําตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทาง ท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจําเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด (กรุณาแจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบ ล่วงหน้าก่อนทําการจอง)
14. ประกันการเดินทาง บริษัทฯ ได้จัดทําแผนประกันภัยการเดินทางสําหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ แบบ Group tour โดยแผน ประกันจะครอบคลุมอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างช่วงที่เดินทาง และลูกค้าต้องทําการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกัน ครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆ ประกันจะไม่ครอบคลุม) (เงื่อนไขตามกรมธรรม์ สอบถามได้กับ เจ้าหน้าที่บริษัท)
15. ค่าประกันสุขภาพไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ท่านสามารถซื้อเพิ่มเติมเองได้
16. ทางบริษัทฯ ยึดตามประกาศของทางรัฐฯและประเทศที่เดินทางเป็นหลัก หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือประกาศใดๆ ทาง บริษัทฯจะคํานึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสําคัญ
17. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอํานาจในการให้คําสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่ มีเอกสารลงนามโดยผู้มี อ้านาจของบริษัท ากับเท่านั้น
18. หากลูกค้าต้องจองตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ รถโดยสารภายในประเทศ หรือรถไฟ กรุณาแจ้งและสอบถามกับเจ้าหน้าที่ ของบริษัททราบก่อนจองทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นบริษัทจะไม่รับผิดชอบทุกกรณีหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
19. ภาพที่ใช้ในโปรแกรมเป็นภาพที่ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
20. เอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กําหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กําหนด ท่านที่ มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอํานวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาวีซ่าให้กับท่าน การผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูต
99/411 ตำบล บางพลีใหญ่ อำเภอ บางพลี จังหวัด สมุทรปราการ 10540